จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

เพิ่มความเป็นมืออาชีพกับสินค้าสุขภาพ


ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ 
ผลิตเริ่มต้นเพียงเเค่30000ซองเท่านั้น 
พร้อมขึ้นทะเบียน อย.,สคบ,ฆอ,เเละข้อมูลโภชนาการ 
โรงงานได้มาตราฐาน ถูกหลักมาตราฐานองค์การอาหารเเละยา
บริษัทมีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์สร้างเเบรนด์ ไม่น้อย ....กว่า60เเบรนด์ในท้องตลาด 
พร้อมให้คำปรึกษา สร้างเเบรนด์ ฟรี
เเนะนำการตลาดทั้งไทยเเละต่างประเทศ (ให้คำเเนะนำพร้อมเอกสารส่งออก


#ใครๆก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้"
#รับผลิตอาหารเสริมบรรจุเเคปซูล ตอกเม็ด เเละชนิดผง
#รับผลิตเครื่องดื่มชนิดผงทรี อิน วัน ( 3in1 )
#รับผลิตกาเเฟ3อิน1 ชาเขียว มัทชะ ชาดำ โกโก้
#รับผลิตคอลลาเจนพร้อมชง คอลลาเจนเพียว คอลลาเจนสด กลูต้าสด ไฟเบอร์ สเต็มเซลล์ เเบบกรอกปากไม่ต้องผสมน้ำ ผลไม้ชงดื่ม ธัญพืช สมุนไพรชนิดผง พร้อมดื่ม เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงสมุนไพร ใส่สารสกัดเพื่อสุขภาพ บำรุงร่างกายเเละความงามทุกชนิดตามสูตรที่คุณต้องการ พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนอย ภายในเร็วสุดภายใน 15-30 วันเท่านั้น (ของจริงไม่มีสวมทะเบียนสามารถตรวจสอบได้)**ระยะเวลาช้าเร็วต้องดูที่สูตรประกอบการยื่นด้วยทุกครั้ง อาจจะมีเพิ่มขั้นตอนในการยื่นเพิ่มค่ะ
มาพูดคุยเเละรับข้อมูลเเละโปรโมชั่นดีๆเเบบนี้ได้ที่
Line@: @mgm-products (ต้องใส่ @ นำหน้า) หรือกด Add ที่ลิงค์ได้เลยค่ะ >>>> http://line.me/ti/p/%40mgm-products

ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รับสร้างเเบรนด์สินค้า

รับจ้างผลิต รับจ้างรีเเพคสินค้า รับจ้างผสม รับจ้างบดสมุนไพร-สารสกัด 

พร้อมบรรจุบรรจุลงซองลงกล่อง,ถุงบรรจุภัณฑ์,ลังบรรจุภัณฑ์

1.ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 

2.ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 

3.ผลิตภัณฑ์สำหรับท่านชาย 

4.ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย

4.ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา

      นอกจากนี้ยังทำเครื่องดื่มชนิดผงชนิดอื่นๆได้อีก เช่น ชานม มอคค่า คาปูชิโน่ ลาเต้ ชาดำ ชาเขียว ชามัทชะ คอลลาเจนชงดื่ม อาหารเสริมชนิดผง ผงอมใต้ลิ้น เครื่องดื่มรสผลไม้ เครื่องดื่มธัญพืช ผลิตภัณฑ์ข้าวชง,ไฟเบอร์ชง สามารถเลือกใส่วัตถุดิบในกลุ่มของอาหารเเละสมุนไพรได้ เลือกสารให้ความหวานได้ ตามมาตรฐานตามสัดส่วนที่อย.กำหนด ตามสูตรที่ลูกค้าต้องการ 

บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อตกลง (ได้รับการรับรองการผลิต) จากกระทรวงสาธารณสุข 
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ว่าด้วยผลิตภัณฑ์อาหารและยา
 
ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ถั่งเฉ้า สมุนไพรที่ต้องทึ่ง...เสียว....คับคุณภาพ


รู้จัก ถั่งเฉ้า รึเปล่าจัดเป็นสมุนไพรจีนมีความหมายว่า “หญ้าหนอน”





“ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” สมุนไพรจีนชนิดนี้มีรูปทรงคล้ายตัวหนอน สรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงหลอดเลือด ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระชะลอความแก่ชราและความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆในร่างกายบรรเทาและรักษาอาการของโรคหอบหืด ช่วยป้องกันไขมันเลว (LDL) ไม่ให้เกาะในหลอดเลือด บำรุงและเพิ่มประสิทธิ ภาพของตับและไตให้ดีขึ้นและอีกหลายอย่าง 
ข้อมูล : สำนักงานกอง ทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.  


ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

“ ถั่งเช่า เห็ดถั่งเช่าสีทอง"



  

“ถั่งเช่า” หรือ “ดอง ชอง โช” มีความหมายว่า “หญ้าหนอน” (ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า) ถั่งเช่านั้นเป็นเห็ดรา อีกทั้งถือเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง และเนื่องจากถั่งเช่ามีปริมาณน้อยมาก การเก็บจึงค่อนข้างลำบาก ทำให้ราคายิ่งแพงมากขึ้นและกลายเป็นยาที่มีค่าสูงมากดุจดังทองคำ ตามที่ได้รับขนานนามว่าเป็นทองละมุน (Soft gold) ส่วนที่มาของเห็ดเทวดาถั่งเช่า ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ด องค์การสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2524-2548 เกริ่นให้ฟังว่า แท้จริงแล้ว เห็ดถั่งเช่าที่วางขายในเมืองไทยนั้น ไม่ใช่เห็ดของแท้ส่งตรงจากทิเบตมาแต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตของเทคโนโลยีไม่ใช่กระบวนการทางธรรมชาติ ถ้าของจริงต้องไปซื้อของภูฏาน เพราะที่นั่นรัฐบาลเขาจะออก Certificated ให้ทุกตัวหนอน แต่อย่างเมืองจีนขายแบกะดิน กิโลฯ ละสองล้านอย่างนี้ มันเป็นของปลอม
 
        “ถั่งเช่าจะแท้ จะปลอม ก็เอามาจากจีนทั้งนั้นแหละครับ แต่ว่าถั่งเช่าแท้เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตรขึ้นไปย่าง ประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเห็ดชนิดนี้มากที่สุด มันจะเกิดขึ้นตามตัวหนอนที่มันอยู่ใต้ดิน เวลาหิมะตกมันก็จะอยู่จำศีลอย่างนั้น ยกเว้นเวลาหิมะละลาย แต่ว่าบางปีที่หิมะมันไม่ละลาย มันก็จะจำศีลอยู่ พอหิมะละลายมันก็จะออกมาเพื่อจะกินน้ำค้าง ใบไม้ รากไม้ 

        ขณะที่มันโผล่ออกมา ถ้าเกิดมันบาดเจ็บ มันก็จะเป็นเชื้อรา ทีนี้ถึงมันเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราเนี่ย มันก็จะไม่ตายทันที เพราะฉะนั้นมันก็จะผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ หิมะตกก็จำศีล หิมะละลายก็โผล่ขึ้นมา แล้วผ่านไปประมาณ 6 ปี มันถึงเกิดออกมาเป็นผีเสื้อ เพราะฉะนั้นขณะที่มันมีเชื้อราอยู่ในตัวมันเอง มันจะป่วย พอป่วยแล้วมันก็ยังฟักตัว เนื่องจากว่ามันยังอยู่ใต้ความเย็นสูง พอมันอุ่นขึ้นมา ถ้ามันบาดเจ็บ หรือโดนเชื้อราเข้าไป มันก็จะขึ้นมาตาย ไม่กลายเป็นผีเสื้อ พอออกมาตายปุ๊บ ร่างกายข้างในมันมีเชื้อรา
        ไอ้ เชื้อราตัวนี้มันก็จะกินตับไตไส้พุงจนทะลุปรุโปร่งหมดแล้วก็ออกมาเป็นดอก เห็ด เพราะฉะนั้น ข้างในมันจะเป็นเส้นใยของเห็ดทั้งนั้น แต่ข้างนอกจะเป็นปลอกหุ้มของตัวหนอน เพราะฉะนั้น ทั้งหมดมันคือเชื้อเห็ดถั่งเช่า
 
        ส่วนความนิยมของเห็ดถั่งเช่า หรืออีกชื่อคือ หญ้าหนอน นั้น ดร.อานนท์ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าน่าจะเกิดในช่วงราวปี 1993 หลังนักกีฬาจีนทำสถิติโลกในการแข่งขันกรีฑาโลก โดยกินเห็ดถั่งเช่าก่อนการแข่งขัน ผู้คนมากมายที่อยากอึดทนทายาดเลยให้ความสนใจและเรียกร้องหาเห็ดวิเศษชนิดนี้
 
        “ในปี 1993 เนี่ย นักกีฬาของจีนไปแข่งที่ประเทศเยอรมนี แข่ง Indoor Athlete สรุปว่านักกีฬาหญิงเข้าไปทำลายสถิติถึง 9 คน แล้วโค้ชของนักกรีฑา เขาก็บอกว่า เขากินเห็ดถั่งเช่า แล้วทีนี้ในปี 1994 มีการประชุมกันที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา ของคณะกรรมการโอลิมปิก เพื่อที่จะประชุมกันว่า คนที่กินเห็ดถั่งเช่าจะแบนได้มั้ย ถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่นมั้ย ปรากฏว่าแบนไม่ได้ เพราะมันเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยา พอหลังจากนักกรีฑาเอาไปกินแล้ว เนื่องจากมันใช้ออกซิเจนได้ดี วิ่งแล้วไม่เหนื่อย หลังจากปี 1994 ที่ว่าแบนไม่ได้ จากไอ้ตัวหนอนสกปรกๆ น่ารังเกียจ มันก็กลายเป็นของที่มีราคา
 
        เรื่องอันดีของคนไทยคือการเพาะเห็ดเถ่าชั่งได้เอง เรียกว่า “เห็ดถั่งเช่าสีทอง” ผลงานการวิจัยของ ดร.อานนท์ นั่นเอง ซึ่งเห็ดถั่งเช่าสีทองนั้น เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งดอกและเส้นใยเห็ด โดยเห็ดถั่งเช่าสีทอง Cordyceps militaris ซึ่งเป็นเห็ดตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเช่า แต่คนละเหล่าพันธุ์(Species) เป็นเห็ดที่พบอยู่ทั่วไป ในระดับที่มีอุณหภูมิระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส เป็นเห็ดที่มีส่วนประกอบของสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่และยาหลายชนิดที่สูงกว่า เห็ดถั่งเช่าแท้ๆ
 
       เห็ดถั่งเช่าสีทองก็เหมือนเห็ดถั่งเช่าแท้ แต่ไม่ได้เกิดในระดับสูงกว่าน้ำทะเล แล้วมันโตไวกว่า เพาะได้ง่ายกว่า มีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) สูงกว่า เดี๋ยวนี้ทั้งโลกก็หันมาเพาะเห็ดถั่งเช่าสีทอง เพราะมันเพาะได้ง่ายกว่า” ดร.อานนท์ระบุ
 
       แจง “ถั่งเช่า” ไม่ใช่ไวอากร้า
 
        สรรพคุณอวดอ้างมากมายบนหน้าอินเทอร์เน็ตเมื่อค้นหาคำว่า “ถั่งเช่า” ไม่ ว่าจะเป็น ป้องกันไข้, ป้องกันหวัด, แก้อาการภูมิแพ้, แก้อาหารหอบหืด, แก้ไอเรื้อรัง, บำรุงปอด, บำรุงไต พูดง่ายๆ ว่า ถั่งเช่าเป็นยาเทวดา ยาบำรุงร่างกายขนานเยี่ยมที่ช่วยแก้เรื่องสมดุลร่างกายให้ปกติและใช้งานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 
        “สรรพคุณเด่นของมันก็จะมีสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) หรือ คอร์ไดซิปิค แอซิด (Cordycepic acid) สาร ตัวนี้มีความสามารถช่วยดึงเอาออกซิเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นั่นก็หมายถึงเวลาเราหายใจ มีอาการเหนื่อยล้า หรือต้องขึ้นที่สูง มันจะช่วยให้เราไม่เหนื่อย ไม่หอบ ลักษณะมันก็จะเป็นอย่าง นั้นเราอาจเรียกว่าการบูสท์ (Boost) ทำให้ร่างกายใช้ออกซิเจนได้สูงขึ้น นั่นหมายถึงผู้ป่วยหรือผู้อะไรต่างๆ ที่หายใจลำบาก หรือกำลังพักฟื้น ร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนแอ สารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) มันก็จะช่วยดูดออกซิเจนมาใช้ได้ดียิ่งขึ้น ตัวนี้ตัวเด่น
 
        จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ถั่งเช่ามันมีสารโพลิแซกคาไรด์ (Polysaccharide) หรือที่เราเรียกว่า เบต้ากลูแคน (Beta glucan) โดยปกติ พืชทั่วไปเนี่ย พวกข้าว อะไรต่างๆ มันจะเป็นเบต้ากลูแคน 14 แต่ว่าเห็ดถั่งเช่าเนี่ยมันจะเป็นเบต้ากลูแคน 13 กับ 16 เวลาเรากินเห็ดเข้าไปแล้วเนี่ย มันจะไปกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่ง ถ้าหากเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี เวลาเราไม่สบาย เป็นหวัด หรืออะไรก็ดี การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย มันก็ต่อสู้ได้ โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวขึ้นมา อันนี้คือสรรพคุณที่สำคัญในเห็ดถั่งเช่า” ดร.อานนท์อธิบาย
 
        อีกหนึ่งสรรพคุณเด็ดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ สมุนไพรที่เหล่าชายต้องการ “ไวอากร้าธรรมชาติ” คำอวดโอ้ที่หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วตาลุกวาว ซึ่งแท้จริงหาใช่เช่นนั้นไม่ เห็ดถั่งเช่าไม่ได้สามารถกระตุ้นกำหนัดของท่านชายได้แต่อย่างใด ดร.อานนท์ อธิบายต่อไปว่า มันเป็นเพียงผลพลอยได้ เมื่อร่างกายแข็งแรง มีเรี่ยวแรงพลังเหลือเฟือ อะไรๆ ก็ดูฟิต ปึ๋งปั๋งดั่งใจไปหมด
 
        “มันเป็นผลส่วนรวมไงครับ ปกติการดึงออกซิเจนไปใช้ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นสมรรถภาพทางเพศหรือทางร่างกาย หรือผู้ป่วยต่างๆ ที่กำลังพักฟื้นเนี่ย ก็จะดีขึ้นและเร็วขึ้น แล้วส่วนใหญ่คนก็ชอบมุ่งไปทางยาโป๊ว หรือยาเพิ่มพลังทางเพศ แต่ว่าความจริงมันไม่ได้ไปเร่งฮอร์โมนทางเพศ ไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น แต่มันทำให้สมดุลในร่างกายมันดีขึ้น คือหมายถึงว่าทุกส่วนในร่างกายมันจะดีขึ้น ร่างกายก็จะมีกำลังฮึกเหิมขึ้น ความอ่อนเพลียก็น้อยลง ทำนองนี้ ไม่ได้เหมือนกับไวอากร้า ไม่ใช่ลักษณะนั้น”
 
       เคาะราคา “ถั่งเช่า”
 
        เอ่ยอ้างสรรพคุณถั่งเช่า สมุนไพรอัศจรรย์แก้สารพัดโรค ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ Live จึงได้ลงสำรวจร้านขายยาจีน-สมุนไพรจีน ย่านเยาวราชและพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า พอมีร้านจำหน่ายถั่งเช่าอยู่บ้างเป็นบางร้าน และทุกร้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ณ ตอนนี้ ยอดขายไม่สูงมากนัก เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งราคาที่ว่าแพงนั่นก็สูงถึงกิโลกรัมละ 2,500,000 บาทเลยทีเดียว
 
        ร้านเอี๊ยะแซ
        “มันก็มีทั้งถูกทั้งแพง ตามแต่คุณภาพ แล้วผมว่าสรรพคุณมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ราคาแพงเพราะมันหายาก ปลูกไม่ค่อยขึ้น อีกอย่างช่วงหลังๆ คนหันมานิยมกินมากขึ้น เป็นที่ต้องการในตลาด ราคาเลยปรับสูงขึ้น ซึ่งทางร้านเราไม่ได้เอามาขาย แต่ถ้ามีลูกค้าต้องการก็สามารถสั่งซื้อให้ได้ เพราะผมไม่อยากสนับสนุนสักเท่าไหร่”
 
        ร้านกุยลิ้มฮึ้ง
        “ถั่งเช่าที่ร้านเราไม่ได้นำเข้าจากจีนครับ จะนำเข้ามาจากทางทิเบต เกรดเดียวกันหมด ต่างกันแค่ที่ไซส์ ก็จะมีเล็ก กลาง ใหญ่ ที่ร้านเราจะขายเป็นตำลึงครับ เริ่มตั้งแต่ตำลึงละ 28,000-40,000 บาท” (1 ตำลึง เท่ากับ 60 กรัม)
 
        ร้านเวชพงษ์โอสถ
        “ถั่งเช่าที่นี่นำเข้ามาจากประเทศจีน มันก็จะมีอยู่หลายเกรดค่ะ เริ่มต้นจากกรัมละ 950 บาท ไปจนถึง 2,500 บาท ส่วนลูกค้าก็มักจะเป็นเจ้าเดิมๆ ลูกค้าประจำค่ะ”
 
        ร้านถงเยิ๋นถัง
        “มีขายค่ะ เต็มตัวสวยๆ เลย ไม่มีหาง มีหลายไซส์ให้เลือก ถ้าจำนวนเส้นน้อย ไซส์ใหญ่ เต็มตัว ก็จะราคาสูงหน่อย ส่วนบางที่เขาขายแบบที่หักๆ ไม่ครบตัว ราคาก็จะถูกกว่านี้ อย่างราคาร้านเราก็จะตามนี้
        ไซส์ 4,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,200 บาท
        ไซส์ 3,800 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,400 บาท
        ไซส์ 2,500 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,600 บาท
        ไซส์ 2,000 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 1,900 บาท
        ไซส์ 1,200 เส้น ต่อกิโลกรัม ราคากรัมละ 2,500 บาท
        แต่เดี๋ยวนี้คนซื้อน้อยหน่อย เพราะราคามันแพงขึ้น”
 
       เด็ดไม่แพ้ “สมุนไพรไทย”
 
        ถึงแม้สรรพคุณอย่าง “ถั่งเช่า” จะดีเลิศขนาดไหน แต่เห็นราคาแล้วคงขยาด เพราะสูงลิ่วจนเกินเอื้อมถึง แต่อย่างคนใหญ่คนโต ก็ต้องมีเงินถุงเงินถังจ่ายได้อยู่แล้ว ทำให้สมุนไพรถั่งเช่านั้น อาจได้รับความนิยมในกลุ่มคนมีฐานะเท่านั้น เภสัชกรหญิง เย็นจิต เตชะดำรงสิน ผู้ อำนวยการสถาบันแพทย์แผนไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เคยได้ให้สัมภาษณ์ว่า ราคาที่สูงมากขนาดนี้ คนไข้หลายคนคงสู้ไม่ไหว แต่ก็มีสมุนไพรจีนอีกชนิดหนึ่งที่ทดแทนได้
 
        “สมุนไพรถั่งเช่านั้น ดีแต่เราไม่สามารถเอามาใช้ได้ทั่วไป เพราะราคาแพงมาก ชั่งละหลักแสนบาท 1 ชั่งถ้าเป็นชั่งของไทยจะหนักประมาณ 600 กรัม แต่ถ้าเป็น 1 ชั่งของจีน จะหนักประมาณ 500 กรัม หรือครึ่งกิโลกรัม ยาครึ่งกิโลกรัมราคาเป็นแสนบาทนั้น คนไข้ส่วนใหญ่จะรับไม่ไหวและจะเข้าถึงยาตัวนี้ไม่ได้เลย
ดังนั้นถั่งเช่าจะใช้ได้กับคนที่มีฐานะดีเท่านั้น ขณะที่คนทั่วไปเราสามารถใช้สมุนไพรชนิดอื่น ที่มีสรรพคุณเดียวกันรักษาได้เหมือนกันมาแทนได้ ซึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกับถั่งเช่า ก็มีอยู่ เช่น ปั๊กพี้ ที่มีสรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงปอด และบำรุงไต โดยปั๊กพี้นี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนโบราณทั่วไป ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ปกติจะมีการนำปั๊กพี้เป็นส่วนผสมในการตุ๋นไก่ ตุ๋นเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ อยู่แล้ว”
 
        ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดอย่าง ดร.อานนท์ ก็กล่าวว่า ความจริงสมุนไพรไทยนั้นดีที่สุด แต่คนไทยมักมองข้าม และหันไปพึ่งสมุนไพรต่างแดนราคาแพง ทั้งๆ ที่เรามีของดีมากมายอยู่ในตัว
 
ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์ ASTV ผู้จัดการ Live

ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 






"หญ้ารีเเพร์" หญ้ามหัศจรรย์ สาวๆถ้าอยากฟิต"


หญ้ารีแพร์
เป็นที่ฮือฮาในหมู่สุภาพสตรีไม่น้อย เมื่อแพทย์แผนไทยได้เปิดตัวสมุนไพร "หญ้ารีแพร์" หรือ "หญ้าฮียุ่ม" 
ตอนนี้คงไม่มีสมุนไพรตัวไหนมาแรงเท่า "หญ้ารีแพร์" อีกแล้ว สมุนไพรตัวนี้เป็นที่ต้องการของสาวๆ ไม่น้อย ขายดิบขายดีเป็นที่ต้องการของตลาด มีกระแสหญ้ารีแพร์ฟีเวอร์ จนทำให้เจ้าพวกโจรแสบในหลายๆ พื้นที่ ทำการขโมยหญ้ารีแพร์จากชาวบ้านเพื่อนำไปขาย
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมหญ้ารีแพร์ถึงฟีเวอร์ได้ขนาดนี้? ไทยรัฐออนไลน์ จึงนำ 10 ข้อที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ "หญ้ารีแพร์" สมุนไพรที่กำลังฟีเวอร์ที่สุดตอนนี้ มาให้ได้อ่านกัน!
1.คุณสมบัติของ หญ้ารีแพร์ สามารถช่วยให้ช่องคลอดของหญิงที่ผ่านการคลอดลูกมาแล้วความกระชับ ฟิต มากยิ่งขึ้น
2.หญ้ารีแพร์ เป็นพืชสมุนไพรที่ภูมิปัญญาไทย สามารถนำไปอาบ อบ และกิน ช่วยทำให้ผิวพรรณกลับมาเปล่งปลั่ง มดลูกเข้าอู่ และบาดแผลหายเร็วขึ้น
3.หญ้ารีแพร์โด่งดังในชั่วข้ามคืน เพราะว่า รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จัดนิทรรศการงานมหกรรมสมุนไพร ที่เมืองทองธานีที่ผ่านมา ได้ออกบูธร่วมกับกรมแพทย์ทางเลือกฯ มีการนำหญ้ารีแพร์มาโชว์
4.หญ้ารีแพร์พบได้ทั่วไปในสวนที่มีสภาพรกครึ้ม ดินอุดมสมบูรณ์
5.ในทางวิทยาศาสตร์พบว่า หญ้ารีแพร์เป็นพืชตระกูลเดียวกับไผ่ มีสาร "ซิลิกา" (silica) อยู่โดยธรรมชาติ ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารต้นกำเนิดของคอลลาเจน และน้ำไขข้อในร่างกาย หากขาดสารนี้จะทำให้มีลักษณะแก่ก่อนวัย
6.วิธีใช้ หญ้ารีแพร์ ทำได้ด้วยการนำหญ้า ไปตากแดดให้แห้ง หลังจากนั้นก็นำหญ้าประมาณหนึ่งกำมือมาเผาร่วมกับไม้ผุ หรือถ่านจนเกิดควัน แล้วก็นำหญ้าที่เผาจนเกิดควันมาวางไว้ใต้เก้าอี้ ที่ผ่านการเจาะรูเป็นวงกลม หลังจากนั้นหญิงที่ผ่านการคลอดบุตร หรือหญิงที่ต้องการยกกระชับช่องคลอดและมดลูก ก็มานั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อรมกระชับช่องคลอดได้เลย ส่วนระยะเวลาในการรมนั้นจะรมจนกว่าควันจะหมด ทั้งนี้ ในการรมควันจะทำติดต่อกันประมาณ 2-5 วัน

7.หญ้ารีแพร์สามารถใช้กินได้ด้วย โดยการนำยอดหญ้ามาลวกจิ้มน้ำพริก นำใบขยี้กับน้ำร้อน หรือต้มแล้วคั้นแต่น้ำดื่ม มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล ทำให้ผิวเก็บกักน้ำได้ดีขึ้น ผิวพรรณจึงชุ่มชื้น เปล่งปลั่งเต่งตึง
8. คนโบราณแม้จะมีลูกหลายคน แต่ก็ยังมีความสุขในชีวิตคู่ได้ เพราะใช้หญ้ารีแพร์เลยไม่ต้องกังวลกับเรื่องช่องคลอดที่ไม่กระชับ ไม่ต้องรอนานที่จะมีอะไรกัน
9.หญ้ารีแพร์ repair มีชื่อเดิมคือ "หญ้าฮียุ่ม" แต่เรียกออกสื่อแล้วเรียกชื่อนี้จะดูไม่ดี จึงได้ตั้งชื่อเรียกขึ้นใหม่ว่า หญ้ารีแพร์
10.แพทย์ยืนยันว่า หญ้ารีแพร์ ไม่มีอันตราย มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพพอสมควร เนื่องจากมีการใช้กันมาหลายร้อยปี
ปิดท้ายอีกสักข้อ แพทย์แผนไทยแนะสาวใหญ่ถ้าอยากฟิตโดยไม่พึ่งหญ้ารีแพร์ต้องหมั่นฝึก ‘ขมิบ’ ทุกๆ วัน  
ขอบคุณ ไทยรัฐ

ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 



"เเก่นตะวัน" มีประโยชน์

แก่นตะวัน
"แก่นตะวัน" นั้น เรียกได้หลายชื่อทั้ง "ทานตะวันหัว" และ "แห้วบัวตอง" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า เยรูซาเล็ม อาร์ติโช้ก (Jerusalem artichoke) บางทีก็เรียกว่า ซันโช้ก (sunchoke) ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์คือ Helianthus tuberosus L. เป็นพืชดอกในตระกูลทานตะวัน ซึ่งมีต้นกำเนิดในตอนใต้ของประเทศแคนาดา และตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น แต่มีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ จึงสามารถปลูกได้ดีในเขตร้อน และเขตกึ่งหนาวอย่างทวีปยุโรป ทำให้ต้น "แก่นตะวัน" เป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ภูมิภาค

โดยลักษณะต้นของ "แก่นตะวัน" จะสูงประมาณ 1.5 ถึง 2 เมตร มีขนตามกิ่งและใบ ส่วนดอกของ "แก่นตะวัน" มีสีเหลืองสดใสคล้ายกับดอกบัวตอง และทานตะวัน แต่ขนาดจะเล็กกว่ามาก นอกจากนี้ "แก่นตะวัน" ยังมีหัวใต้ดินคล้ายมันฝรั่งไว้สำหรับเก็บสะสมอาหาร ซึ่งที่หัวของแก่นตะวันนี่เอง ที่จัดว่ามีสรรพคุณดีเยี่ยม

นั่น ก็เพราะที่ส่วนหัวของ "แก่นตะวัน" จะมีสารอินนูลิน (Inulin) ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลฟรักโตสโมเลกุลยาว จึงเป็นพืชพรีไบโอติกที่มีเส้นใยสูงมาก หากรับประทานเข้าไป สารดังกล่าวจะไปช่วยดักจับยึดไขมันในเส้นเลือด ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ หรือ LDL ที่เรารับประทานเข้าสู่ร่างกายมากเกินไปทิ้งออกทางอุจจาระ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี 

และ ถ้าใครที่ไม่ค่อยแข็งแรงเพราะมีภูมิคุ้มกันต่ำ "แก่นตะวัน" ก็ถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้ดีขึ้น เพราะอินนูลินจะไปช่วยลดปริมาณแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โคลิฟอร์ม (Coliforms) และ อี.โคไล (E.Coli) ในขณะเดียวกัน "แก่นตะวัน" ก็จะไปเพิ่มการทำงานของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายคือ บิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) และแลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) ให้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
นอก จากนี้ ใครที่อยากลดความอ้วน "แก่นตะวัน" ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี โดยก่อนหน้านี้มีผู้ทดลองวิจัยให้หนูทานอาหารผสมอินนูลินนาน 3 สัปดาห์ และพบว่า น้ำหนักตัวของหนูลดลงจากเดิมถึง 30% เลยทีเดียว ซึ่ง หากคนรับประทานแก่นตะวันซึ่งมีอินนูลินสูงเข้าไป ก็จะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักตัวได้เช่นกัน เพราะร่างกายเราไม่สามารถย่อยสารเส้นใยอินนูลินได้ ทำให้สารดังกล่าวตกค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารหลายชั่วโมง จึงทำให้ผู้รับประทาน "แก่นตะวัน" เข้าไป ไม่รู้สึกหิว และทานอาหารได้น้อยลงนั่นเอง

ส่วนผู้ที่ไม่อยากเป็นโรคเบาหวาน การรับประทาน "แก่นตะวัน" ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ เพราะ "แก่นตะวัน" มีแคลอรี่ต่ำ และไม่ไปเพิ่มน้ำตาลในเลือด โดยมีงานวิจัยระบุว่า คนที่ทานอินนูลินจะมีโอกาสเป็นเบาหวานน้อยกว่าคนที่ทานน้ำตาลถึง 40% เลยทีเดียว

สำหรับสรรพคุณอื่น ๆ ของ "แก่นตะวัน" 
1.ช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย
2.ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง
3.แก้อาการท้องเสีย ท้องผูก
4.ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้
5.ลดกลิ่นปากจากเชื้อแบคทีเรีย
6.ป้องกันพิษของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว
7.ป้องกันอาการภูมิแพ้ และการแพ้อาหาร โดยเฉพาะในเด็ก
8.กระตุ้นการดูดซึมแร่ธาตุหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม และธาตุเหล็ก ฯลฯ

สรรพคุณของ "แก่นตะวัน" มากมายขนาดนี้แล้ว ก็คงอยากจะลองรับประทานกันบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ โดยเราสามารถทาน "แก่นตะวัน" ได้ทั้งแบบสด ๆ เหมือนกับผักสลัดทั่ว ๆ ไป รสชาติจะออกคล้าย ๆ แห้วและมันแกว หรือจะนำไปปรุงสุกเป็นอาหารหลากหลายเมนูก็ย่อมได้ หรือหากใครจะลองนำหัวแก่นตะวันไปตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากแดดให้แห้งแล้วนำไปอบ ป่นเป็นผงเล็ก ๆ ไปผสมกับแป้งทำขนม คุ้กกี้ ก็จะได้ขนมรสอร่อย แถมยังมีกลิ่นหอม และมีปริมาณอินนูลินจำนวนมากซึ่งดีต่อสุขภาพด้วย

          และ นอกจาก "แก่นตะวัน" จะเป็นพืชที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงแล้วแล้ว ยังเป็นพืชที่มีประโยชน์ในด้านพลังงานทางเลือกอีก โดยหากนำหัวสดแก่นตะวัน 1 ตัน ไปหมักด้วยเชื้อยีสต์ จะได้แอลกอฮอล์ไปกลั่นเป็นเอทานอลที่บริสุทธิ์ 99.5% ได้ถึง 100 ลิตร ซึ่งมากกว่าอ้อย 1 ตัน ที่จะให้ปริมาณเอทานอลเพียง 75 ลิตร ดังนั้นแล้ว หากมีการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการหมัก และกรรมวิธีต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เชื่อได้เลยว่า "แก่นตะวัน" จะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งในไม่ช้า

          แหม...ประโยชน์ครบเซตอย่างนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมคนทั่วโลกถึงยกให้ "แก่นตะวัน" เป็นสมุนไพรมหัศจรรย์จริง ๆ

ขอขอบคุณเนื้อหาเเละรูปภาพ
วิกิพีเดีย,คมชัดลึก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 

ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

Instant coffee / กาแฟผงสำเร็จรูป กาเเฟเป็นผงละลายน้ำได้ไงนะ??????

Instant coffee / กาแฟผงสำเร็จรูป

กาแฟผงสำเร็จรูป (instant coffee) เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกาแฟ (coffee) ที่สะดวกในการชง มีลักษณะ เป็นผง หรือเกล็ด

ละลายได้ดีในน้ำร้อน การผลิดกาแฟสำเร็จรูป เริ่มต้นการการทำกาแฟคั่วบดการสกัดน้ำกาแฟเข้มข้น แล้วผ่านการทำแห้งด้วย
เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย (spray drier) หรือเครื่องทำแห้งแบบระเหิด (freeze drier)
กระบวนการผลิตการแฟผงกึ่งสำเร็จรูป
การผลิตกาแฟผงกึ่งสำเร็จรูปนั้น เป็นการสกัดและทำแห้งของแข็งที่ละลายน้ำได้ใน กาแฟและองค์ประกอบของสารให้กลิ่นให้ผง
หรือเป็นเมล็ดเล็กๆ วัตถุดิบที่ใช้สำหรับผลิตการแฟผงสำเร็จรูป คือนำเมล็ดกาแฟกะลา (parchment coffee) มาขัดกะลาได้เป็น
เมล็ดกาแฟดิบ หรือกาแฟสาร (green coffee bean) ใช้ทั้งกาแฟพันธุ์อาราบิก้า (arabica) และ โรบัสต้า (robusta) หรือผสมกัน
ขึ้นกับสูตร รสชาติ ความขม ที่ต้องการ
กรรมวิธีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูป
กรรมวิธีการผลิตกาแฟผงสำเร็จรูปประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้
1. การคัดคุณภาพและเก็บรักษาเมล้ดกาแฟ (Green Bean Cleaning & Storage)
ก่อนการผลิต เมล็ดกาแฟดิบที่ถูกเก็บไว้ในถังเก็บ (storage bin) ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ และ อุณหภูมิที่ต่ำ ป้องกันการเจริญ
ของเชื้อรา และแมลง เมล็ดกาแฟ จะถูกนำมาแปรรูปเบื้องต้นด้วยขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้
เพื่อให้ได้เฉพาะเมล็ดกาแฟคุณภาพดี เข้าสู่กระบวนการที่ 2 ต่อไป
2 การผสมกาแฟ (Blending)
เป็นขั้นตอนการนำกาแฟพันธุ์ต่างๆ เช่น โรบัสต้า (robusta) อาราบิกา (arabica) มาผสม (mixing) กันตามสูตรเฉพาะ เพื่อให้
ได้กาแฟที่มีรสชาติต้องการในเครื่องผสม
3 การคั่ว (Roasting)
การคั่ว เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการผลิตกาแฟ โดยกลิ่นรสสุดท้ายของกาแฟจะขึ้นกับวิธีการคั่ว ตลอดจนสภาวะที่ใช้คั่ว
โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมในการคั่วอยู่ที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียส
4 การบด (Grinding)
การบดมีลักษณะดังนี้คือ 1) แบบหยาบ 2) แบบหยาบปานกลาง 3) แบบละเอียด 4) แบบละเอียดมาก โดยใช้เครื่องบดมาตรฐาน
เรียกว่า motorized grinders
5 การสกัด (extraction) เพื่อแยกส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ของกาแฟที่ผ่านการคั่วและการบดละเอียดแล้ว โดยใช้น้ำ
เป็นตัวทำละลาย เพื่อให้ได้ของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมด ละบายออกมาอยู่ในน้ำ ปกติจะสกัดจนได้ สารละลายมีความเข้มข้น
ประมาณ 15-25 % w/w การสกัดจะทำภายใต้ความดันสูงกว่าความดันบรรยากาศ เพื่อให้อุณหภูมิสูงกว่า จุดเดือดของน้ำ
เพื่อเพิ่มอัตราการชะละลาย
1.1การสกัดแบบกะ (batch extraction) เป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไป ทำงานหลักการเดียวกับเครื่องสกัดกาแฟขนาดเล็ก
ที่ใช้ตามร้านกาแฟ โดยนำกาแฟที่คั่วบรรจุในภาชนะ จากนั้นจะผ่านน้ำร้อนเข้าไปสกัด ของแข็ง ที่ละลายน้ำในกาแฟ
น้ำกาแฟจะถูกปล่อยออกไป อุณหภูมิที่ใช้ในการสกัดอยู่ที่ 175 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดัน สารละลายที่ได้จะมี
ความเข้มข้นประมาณ 15-25% น.น./น.น. เข้าสู่กระบวนการทำแห้งต่อไป
1.2 การสกัดแบบต่อเนื่อง (continuous extraction) กาแฟคั่วบดถูกป้อนเข้าสู่เครื่องสกัด อย่างต่อเนื่อง ด้วยเกลียว
ลำเลียง (screw conveyor) ที่วางเป็นมุมเอียง เป็นเครื่องสกัดแบบไหลสวนทาง (Counter current extractor) คือ
ทางเข้าของน้ำร้อนจะอยู่ทางด้านบน จะอยู่คนละด้านกับการเข้าของกาแฟคั่วบด เพื่อสกัดของแข็งที่ละลายน้ำได้ในกาแฟ
อย่างต่อเนื่อง กากกาแฟที่ผ่านการสกัดแล้วจะไปจากนั้นน้ำกาแฟที่ได้จะปล่อยออกทางด้านล่าง การทำงานของระบบ
ต้องใช้ความดันและอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
Instant coffee

1.3 Slurry extraction กาแฟและน้ำจะถูกกวนเข้าด้วยกันในแทงค์และจะแยกออกจากกันโดยการหมุนเหวี่ยง (centrifuge)
6. การทำให้เข้มข้น
การทำให้เข้มข้น (concentration) เพื่อแยกน้ำออกจากสารสกัดจากกาแฟให้เข้มข้นขึ้น ก่อนการทำแห้งด้วยเครื่องระเหย
(evaporator) อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มักใช้เครื่องระเหยแบบหลายขั้นตอน (multiple effect evaporator)
7. การแยกสารที่ให้กลิ่นหอม (aroma recovery)
เป็นการถนอมกลิ่นกาแฟไม่ให้สูญเสียไปกับกระบวนการผลิตและให้สภาพของกลิ่นคงความหอมและสดใหม่อยู่เสมอ
8 การปรับค่ามาตรฐาน (standardization)
เป็นการวัดความเข้มข้นของกาแฟให้ได้มาตรฐานตามที่ต้องการ
9. การทำแห้ง (dehydration)
  • เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย (spray drier) เป็นการทำให้น้ำกาแฟเกิดเป็นละอองเล็กขนาดหยดน้ำ (เส้นผ่านศูนย์กลาง
    100-200 ไมโครเมตร) ในกระแสลมร้อนที่ไหลในทิศทางเดียวกัน (150-300 องศาเซลเซียส) ในถังทำแห้งขนาดใหญ่
    กาแฟแห้งที่ได้จะถูกแยกออกไปโดยการใช้ centrifugal atomizer ส่วนของเหลวจะถูกส่งไปยังภาชนะหมุน เพื่อสร้าง
    ขนาดของหยดสารละลายใหม่ในการเสปร์ย
  • การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (freeze drying) การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเป็นการทำแห้งโดยการทำให้ของแข็ง
    กลายเป็นไอโดยไม่ละลายหรือเรียกว่า การระเหิด โดยน้ำกาแฟจะผ่านการแช่เยือกแข็ง (freezing) จากนั้นจึงทำการระเหิด
    ภายใต้ความดัน
10. การบรรจุ (filling & packing) เมื่อได้กาแฟผงสำเร็จรูปก็จะนำเข้าสู่กระบวนการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ โดยใช้เครื่องมือใน
การบรรจุภัณฑ์ หลังจากนั้นก็จะทำการบรรจุลงหีบห่อและขนย้ายไปยังโกดังพักสินค้า เพื่อรอการขนส่งต่อไป

References
http://www.arda.or.th/kasetinfo/south/coffee/used/01-02.php
 
ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

กระบวนการผลิตชา "ชาเขียว"

ชาเขียว ได้ถูกนำมาเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สำหรับชาวจีน
และชาวญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานนับพันปีมาแล้ว


     ชาได้ถูกนำมาเป็นเครื่องดื่ม สุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสำหรับชาวจีน และชาวญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานนับพันปีมาแล้ว ในระยะไม่กี่ปีมานี้ "กระแสธรรมชาตินิยม" ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ... โดย เฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ ประกอบกับมีการเผยแพร่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของชาเขียว ตามสื่อต่างๆ อย่างมากมาย ทำให้เกิดกระแสตอบรับการบริโภคชาเขียว จนปัจจุบันมีผลิตภัณท์ที่มีส่วนผสมของชาเขียวนอกเหนือจากในรูปของชาชงออกมา สู่ท้องตลาดจำนวนมาก

* ต้นชา ชา มีหลายประเภท ชาที่คนไทย คุ้นเคย เห็นจะเป็นชาดำ (หรือชาจีน) ชาเขียว และชาอูหลง ชาเหล่านี้ต่างก็มาจากต้นชาชนิดเดียวกัน ที่มีชื่อ วิทยาศาสตร์ว่า Camellia chinensis ซึ่งมี 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เจริญ ในแถบพื้นที่สูง อากาศหนาวเย็น มีลักษณะใบเล็ก โดยใบมีขนาดกว้าง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 3 นิ้ว ส่วนอีกสายพันธุ์เป็นพืชท้องถิ่นในประเทศอินเดีย เจริญได้ดีในภูมิอากาศร้อนปานกลาง มีลักษณะใบที่ใหญ่กว่า ขนาดกว้าง 4 นิ้ว ยาว 10 นิ้วโดยประมาณ ส่วนของต้นชาที่ใช้เป็นเครื่องดื่มคือส่วนใบบริเวณยอด ซึ่งจะให้ชาที่มีคุณภาพดีที่สุด จึงนิยมรักษาระดับของต้นชาให้สูงประมาณ 3 - 5 ฟุตเท่านั้นเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว และใช้มือมนุษย์ในการเก็บใบชาเพื่อให้ได้ชาที่มีคุณภาพดี

 * กระบวนการผลิตชา ใบ ชาแต่ละสายพันธุ์สามารถนำมาผลิตเป็น ชาเขียว ชาดำ หรือชาอูหลงก็ได้ ทั้งนี้ชาแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันในแง่กระบวนการผลิต โดยชาเขียวเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะนำไปอบไอน้ำทันที เพื่อทำลาย oxidizing enzymes (เช่น polyphenol oxidase และ peroxidase) ป้องกันการเกิดกระบวนการหมัก ก่อนนำไปตากแดดให้แห้ง ทำให้ใบชายังคงสีเขียวอยู่ ส่วนชาดำและชาอูหลงนั้น หลังเก็บเกี่ยวแล้วนำใบชาไปผึ่งลมนาน 5 - 20 ชั่วโมง ทำให้เกิดกระบวนการหมักโดย oxidizing enzymes โดยชาดำจะใช้เวลาหมักนานกว่าชาอูหลง ทำให้ใบชาเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล เมื่อชงน้ำจะมีรสเข้มข้นและมีกลิ่นหอมฉุนกว่าชาเขียว ดังนั้น ชาเขียวจึงจัดเป็น nonfermented tea ส่วนชาอูหลงและชาดำถือเป็น semi-fermented tea และ fermented tea ตามลำดับ

* สารสำคัญในชาเขียว ใน ใบชาเขียวมีสาร polyphenols ที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลังในปริมาณสูง (30 - 35 % ของน้ำหนักใบชาแห้ง) เชื่อว่าสาร polyphenols นี่เองที่เป็นสารสำคัญและดีต่อสุขภาพ สาร polyphenols นี้รวมถึงสาร flavonoids (ซึ่งมักพบได้ทั่วไปในผัก ผลไม้) ส่วนสาร catechins ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่สำคัญเป็น flavonoids ชนิดพิเศษที่พบในชา เนื่องจากชาเขียวไม่ผ่านกระบวนการหมัก จึงยังคงรักษาสารสำคัญไว้ได้ในปริมาณสูง พบว่าในชาเขียวมีปริมาณ catechins ประมาณ 10 - 18% ของน้ำหนักใบชาแห้ง ในขณะที่ชาดำมี catechins ประมาณ 3 - 5 % ของน้ำหนักใบชาแห้ง แสดงว่าการหมักมีการทำลายสาร catechins นอกจากนี้นักวิจัยยังสามารถแยกสาร catechins ออกได้เป็น 5 ชนิด คือ 1. gallocatechin (GC) 2. epicatechin (EC) 3. epigallocatechin (EGC) 4. epicatechin gallate (ECG) 5. epigallocatechin gallate (EGCG) โดย EGCG ถือเป็น catechins ที่ทรงพลัง ที่สุด นอกจากนี้ ใบชาเขียวยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดอะมิโน วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี และฟลูออไรด์ ชาเขียวที่มีคุณภาพดีจะมีปริมาณกรดอะมิโนสูงแต่มี แทนนินต่ำ ในทางตรงข้าม ชาดำและชาอูหลงที่ดีจะมีปริมาณแทนนินสูง ชาเขียวมีรสชาติเฉพาะตัว จะมี รสฝาดน้อย เมื่อนำมาทำเป็นชาเขียว จะทำให้น้ำชามีสีเขียวอ่อนปนน้ำตาล มีกลิ่นหอมเฉพาะ สามารถนำมาปรุงแต่งสี กลิ่นและรสสำหรับผลิตภัณฑ์หลายๆ ชนิดได้อย่างลงตัว เนื่องจากละลายน้ำได้ดี มีกลิ่นหอม และรสชาติดี
  • ชาเขียว - ต้านอนุมูลอิสระ ดัง ที่กล่าวข้างต้นว่าชาเขียว มีสารแอนติออกซิแดนซ์ ที่ทรงพลังในปริมาณสูง สารแอนติออกซิแดนซ์นี้สามารถจับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ภาวะไขมันในเลือดสูง สารสกัดจากชาเขียวจึงป้องกันอันตรายที่เกิดจากฤทธิ์ของอนุมูลอิสระในร่างกาย ได้
  • ชาเขียว - ป้องกันโรคมะเร็ง จาก การศึกษาทางระบาดวิทยาในปี ค.ศ. 1970 พบว่า ชาวญี่ปุ่นในเมืองชิโอสุกะมีอัตราส่วนของประชากรที่เป็นโรคมะเร็งกระเพาะ อาหารต่ำกว่า ชาวญี่ปุ่นในเมืองอื่น และชาวเมืองชิโอสุกะมีอาชีพปลูกชาเขียวและมีการบริโภคชาสูงกว่าชาวญี่ปุ่นใน เมืองอื่น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการ ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคชาเขียวกับ ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่ลดลง หรือ อีกนัยหนึ่งชาเขียว มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค มะเร็งชนิดต่างๆ ได้จริงหรือมีรายงานการทดลอง โดยให้หนูทดลองบริโภคสารละลาย polyphenols แต่ละชนิดและฉีดสารก่อมะเร็งเอ็น เอ็นเค ผลปรากฏว่า EGCG สามารถลดเปอร์เซนต์การก่อตัวเป็นมะเร็งได้ดีที่สุด นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า catechins มีบทบาทสำคัญ คือ ช่วยลดภาวะเป็นพิษของสารก่อมะเร็ง บางชนิด แทรกแซงกระบวนการเกาะยึดของสารก่อมะเร็งต่อ DNA ของเซลล์ปกติ สรรพคุณที่เป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลัง เสริมการทำงานกับสารแอนติออกซิแดนซ์และ enzymes อื่นๆ และจำกัดการลุกลามของเซลล์เนื้องอก
  • ชาเขียว - ลดระดับไขมันในเลือด ได้ มีการทดลองให้หนูบริโภคอาหารที่มี โคเลสเตอรอลสูง เปรียบเทียบกับหนูกลุ่มที่ได้อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงพร้อมกับได้รับ catechins พบว่า catechins สามารถลดปริมาณการเพิ่มขึ้นของระดับไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนี้ มีรายงานการทดลอง แสดงให้เห็นว่า อาสาสมัคร ชาวญี่ปุ่นที่ดื่มชาเขียววันละ 9 ถ้วย สามารถลด ระดับโคเลสเตอรอลได้เฉลี่ย 8 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
  • ชาเขียว - ลดระดับน้ำตาลในเลือด Catechins ในชาเขียวมีประสิทธิภาพในการจำกัดการทำงานของ amylase enzyme ทำให้ไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย ผลทำให้น้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้น จากการทดสอบในหนูทดลอง พบว่า catechins ช่วยลดระดับกลูโคส และระดับอินซูลินในเลือดได้ และเมื่อทำการวิจัย ในอาสาสมัครโดยให้ catechins 300 มิลลิกรัม ตามด้วยการบริโภคแป้งข้าว 50 กรัม พบว่าระดับกลูโคสและระดับอินซูลินในเลือดไม่สูงขึ้นดังที่ควรจะเป็น
  • ชาเขียว - ช่วยลดน้ำหนัก จาก ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การดื่มชาเขียววันละ 2 ถ้วย ช่วยลดการเกิดไขมันส่วนเกิน และทำให้รู้สึกอิ่ม ในการทดลอง เมื่อให้หนูบริโภคอาหารปกติและเสริมด้วยสารสกัดชาเขียว พบว่าการสะสมไขมันในหนูลดลง เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่เมื่อให้อาหารเสริมชาเขียวต่อไปนานๆปริมาณไขมันกลับไม่ลดลงต่ำจนผิดปกติ
  • ชาเขียว - รักษาสุขภาพช่องปาก การ เกิดฟันผุเป็นผลมาจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus mutans ในช่องปากทำปฏิกิริยากับน้ำตาล ได้เป็นสารกลูแคนมีลักษณะเหนียวข้น ไม่ละลายน้ำ เคลือบอยู่ที่ฟัน แล้วเชื้อจุลินทรีย์จะใช้กลูแคนนี้เป็นอาหาร ในระหว่างกระบวนการเมตาโบลิซึม เกิดการสร้างกรดซึ่งไปทำลายสารเคลือบฟันเป็นสาเหตุให้ฟันผุ จากการทดสอบในห้องปฎิบัติการพบว่า สาร catechins สามารถยั้บยั้งกระบวนการผลิตกลูแคนของเชื้อ S. mutans ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนอาจกล่าวได้ว่า การดื่มชาเขียวหลังมื้ออาหารสามารถป้องกันโรคฟันผุได้

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของชาเขียว นอกจากอาหาร ได้แก่ ขนมปัง เค้ก ขนม ขบเคี้ยว ช็อกโกแลต หมากฝรั่ง ลูกอม ฯลฯ ที่นำชาเขียวมาใช้แต่งกลิ่น สีและรสชาติของอาหารแล้ว เพื่อสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ผู้ผลิตได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียวหลั่งไหลออกมาสู่ท้องตลาด นับตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง สบู่ เกลืออาบน้ำ โลชั่น ครีม น้ำยาดับกลิ่นกาย ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และเครื่องสำอางต่างๆ นอกจากนี้มีการนำสรรพคุณของชาเขียวในการเป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลังมา ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีไขมันและน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหม็นหืนเร็ว มีการศึกษาวิจัยถึงความเป็นไปได้ในการนำสารสกัดจากชาเขียวมาใช้เป็นสารกัน บูดสำหรับอาหารสดไปจนถึง การนำชาเขียวมาผสมกับ เส้นใยผ้า เป็น "antimicrobial fiber" สำหรับเสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น และมีการนำไปใช้เป็น ส่วนผสมในแผ่นใยกรองอากาศสำหรับเครื่อง ปรับอากาศ นับว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ได้ และ เข้ากับกระแสนิยมทีเดียว...แต่ก็อย่าทานเยอะเกินไปล่ะ เพราะการดื่มชาเขียวในปริมาณสูงอาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามิน B1 และ ธาตุเหล็กได้ นอกจากนี้สารแทนนินที่อยู่ในชาเขียวทำให้เกิดรสขมนั้น อาจทำให้ท้องผูกได้ คาเฟอีนในชาเขียวอาจทำให้เกิดอ าการนอนไม่หลับ เนื่อง อย่างไรก็ตาม ชาเขียวยังมีคาเฟอินน้อยกว่ากาแฟ คือประมาณ 30-60 มก. ต่อชา 6-8 ออนซ์ เมื่อเทียบ กับจำนวน คาเฟอินกว่า 100 มก. ที่พบในกาแฟ 

ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

ONE STOP SERVICE เริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ แบบมืออาชีพ ใช้ทุนน้อย และความเสี่ยงต่ำ!!!

เริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ
แบบมืออาชีพ...
ใช้ทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ!!!
     กาเเฟ ชานม ชาดำ ชาเขียวนม มัทชะกรีนที มอคค่า คาปูชิโน่ ลาเต้ คอลลาเจน และในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ  กาแฟเพื่อสุขภาพ กาแฟคลอลาเจน กาแฟถั่วขาว กาแฟไฟเบอร์ กาแฟสำหรับท่านชาย บำรุงร่างกาย กระบองเพชร โสม เห็ดหลินจือ มะรุม ครีมถั่วเหลือง ครีมเทียมจากข้าว มีหลากหลายสารสกัด ตามสูตรที่ลูกค้าต้องการ และสามารถเลือกชนิดของสารให้ความหวานได้ ตามรสชาติที่ต้องการ สำเร็จรูปตามรูปแบบมาตรฐาน ที่เหมาะกับผู้บริโภคและทางโรงงานยังสามารถเดินเรื่องขึ้นจดทะเบียนอย  ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม และยังสามารถแนะนำบริการจดชื่อทางการค้า นอกจากนี้โรรงานสามารถจัดหาโรงพิมพ์ซองฟอล์ยจำนวนขั้นต่ำ และพิมพ์ขออกเเบบกล่องและลังกระดาษลูกฟูก ในราคาโรงงาน มาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอีกด้วย ครบวงจรในที่เดียว
    บริษัทฯได้ปฏิบัติตามข้อตกลง (ได้รับการรับรอง) จากกระทรวงสาธารณสุข 
 
บริการด้านการผลิตอาหารเสริมและสารสกัด
การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์
เรามีบริการออกสูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้แก่ท่าน  ให้ท่านมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ทั้งปริมาณ ส่วนผสม และน้ำหนัก ให้ถูกต้องตามมาตรฐานขององค์กรอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข


บริการบรรจุตัวยาลงแคปซูลและตอกเม็ด
ให้บริการบรรจุตัวยา อาทิเช่น ผงสมุนไพร สารสกัดและอาหารเสริม ลงในแคปซูลเบอร์
ที่ท่านต้องการหรือขึ้นรูปเม็ดเเท็ปเล็ต  ทั้งแบบเม็ดกลม เม็ดรี ได้หลากหลายขนาดตามความต้องการของท่าน ควบคุมมาตรฐานเพื่อให้ได้น้ำหนักตรงตามกำหนด 





บริการ Repack
บริการ Repack ลงซอง-ถุงบรรจุภัณฑ์ ให้บริการบรรจุแคปซูล อาหารเสริมหรือสมุนไพร ลงขวดบรรจุ  หรือเลือกบรรจุเม็ดยาลงแผงบริสเตอร์พร้อมฟอล์ยปิดหลังแผง ได้หลากหลายขนาด รวมทั้งบริการติดฉลาก ชริ้งค์ขวด และบริการพิมพ์วันผลิต วันหมดอายุ ลงบนฉลากสินค้า

                         รับบดผงพาว์เดอร์สมุนไพรชนิดต่างๆ เพื่อให้ได้สมุนไพรที่สามารถใส่
                         เเละ สามารถรับประทานได้ง่าย ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน 



บริการด้านการตลาด
บริการรับขึ้นทะเบียน อย.-ฮาลาลเเละส่งสูตรวิเคาระห์โภชนาการเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานตามกฎหมายอาหารและยา เราบริการรับขึ้นทะเบียน อย. ข้อมูลโภขนาก่ร รวมทั้งส่งวิเคราะห์ตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในหน่วยงานราชการที่ทาง อย. กำหนด


         
ติดต่อสอบถามได้ทุกวันทำการ 
ติดต่อคุณฐาน์ณัฐ 
โทรศัพท์ : 086-988-4754(สาย1)
         099-294-6122(สาย2) 
Line ID : 0869884754 
อีเมลล์ :endor_oil@hotmail.com , mgmgrandproduction@hotmail.com
เว็บไซต์บริษัท : 

Translate

บทความที่ได้รับความนิยม